ตัวเลือกยอดนิยม
23/01/2020
วัฒนธรรม Kesennuma กับ “Big Fish”
เรื่องราว
Yasutada Onodera เจ้าของ Anchor Coffee ภูมิหลังทางประวัติศาสตร์ของ Kesennuma ในฐานะเมืองท่าที่มีความเป็นสากลนั้นคือข้อเท็จจริงที่ว่า ที่นี่ได้ปรับตัวตามความเปลี่ยนแปลงและเปิดต้อนรับผู้คนมาหลายศตวรรษ
การแนะนำเมืองและภาพรวมของ Kesennuma ไม่สามารถบอกต่อได้ถ้าไม่มีคุณยาสุทาดะ โอโนเดระ เขาเป็นผู้ประกอบการในท้องถิ่นที่ทำงานในหลากหลายอุตสาหกรรมตั้งแต่การค้าไปจนถึงการแล่นเรือเสบียง นอกจากนี้เขาไม่เพียงแต่กระตือรือร้นและมีชื่อเสียงในชุมชนของเขาเท่านั้น แต่ยังมีความเป็นสากลและได้รับการศึกษาในสเปนและสหรัฐอเมริกาอีกด้วย เราได้พูดถึงสาระสำคัญของ Kesennuma ที่เป็นสากลและวิธีที่มีอิทธิพลต่อการพัฒนาของ Kesennuma ในอดีตและแม้กระทั่งทุกวันนี้
เราขอเริ่มต้นเรื่องราวด้วยนักสำรวจชาวสเปนที่ชื่อเซบาสเตียน วิซซิโน
หลังจากนำคณะผู้แทนญี่ปุ่นจากเม็กซิโกกลับมาญี่ปุ่นในปี 1600 Vescaino เขาไม่ได้รับการต้อนรับจาก Shogun Tokugawa Hidetada แต่ได้รับการยอมรับจาก Date Masamune ที่ Kesennuma บนชายฝั่ง Sanriku
ต่อมาเขาพาเพื่อนร่วมงานคนอื่นกลับไปเม็กซิโกและเขาได้มีบทบาทสำคัญในการอำนวยความสะดวกในการเดินทางครั้งแรกของญี่ปุ่น Vizcaino ผู้ตั้งชื่อ San Diego Bay บนชายฝั่งตะวันตกของแคลิฟอร์เนียค่อนข้างคุ้นเคยกับฉันที่มาจากแคลิฟอร์เนีย
ในความเป็นจริง Onodera ยังมีสถานที่ที่ผู้คนจำนวนมากได้เจอแล้วจะรู้สึกใกล้ชิดทันที นี่เป็นธรรมชาติของเมืองท่าเรือทั่วโลกใช่หรือเปล่า หรือ Kesennuma มีเสน่ห์ดึงดูดผู้คนแบบไม่มีที่ไหนเทึยบได้เลย?
ในท่าเรือ Kesennuma มีเรือเข้ามาเทียบท่าหลายต่อหลายครั้งและชาวประมงจากทั่วโลกก็มารวมตัวกันที่นี่ด้วย ชาวประมงท้องถิ่นได้เริ่มจัดส่งสินค้าทางทะเลไปยังท่าเรือพันธมิตรหลายแห่งใน Kesennuma รวมถึงอินโดนีเซียและแอฟริกาใต้และการแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างสเปนและเม็กซิโกยังคงดำเนินต่อไปจนถึงทุกวันนี้
Onodera เป็นเส้นทางเชื่อมหลักของอุตสาหกรรมการประมงที่เดินทางด้วยจิตวิญญาณของชาว Kesennuma ผู้คนในเมืองนี้ยินดีที่จะยอมรับการค้าต่างประเทศทักษะและเทคโนโลยีเป็นหนึ่งในส่วนที่สำคัญที่สุดของเศรษฐกิจและวิถีชีวิตของ Kesennuma และทัศนคติของพวกเขาก็ยังคงเหมือนเดิมเมื่อพวกเขาเดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นทางสังคมที่ผู้คนมักจะรู้สึกยินดีที่จะต้อนรับชาวต่างชาติและกลายเป็นเพื่อนกันในระยะเวลาอันสั้น
ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นมานานมักคิดว่าตัวเองโดดเดี่ยวจากสังคมญี่ปุ่นและไม่รู้สึกถึงความพิเศษอะไรกับสิ่งรอบตัว เหตุใดคุณจึงรู้สึกว่าชาวต่างชาติที่เคยอาศัยอยู่ Kesennuma และนักท่องเที่ยวจำนวนมากได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีใน Kesennuma? หลังจากพูดคุยและฟังเรื่องราวมาเรื่อยๆจึงได้ข้อสรุปว่า การใช้ชีวิตใกล้ชิดกับทะเลอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการต้อนรับด้วยความอบอุ่นที่แสนพิเศษแบบบนั้น
เราเรียกความเป็นอยู่แบบนั้นว่า “”สถานการณ์ที่ทุกคนอยู่ด้วยกันบนเรือลำเดียว”” สมมติว่าชีวิตความเป็นอยู่เราเป็นทะเลและเราทุกคนลงมือทำอะไรไม่มากก็น้อยเพื่อเป้าหมายเดียวกัน หากคุณอยู่บนเรือสำราญ (อาจเป็นโตเกียว) คุณจะได้รับประสบการณ์ที่สะดวกสบายและปลอดภัยโดยมีผลกระทบเพียงเล็กน้อยต่อเส้นทางการเดินเรือของคุณ อาจมุ่งหน้าไปยังดินแดนที่หมายของคุณได้ง่ายและไม่ระมัดระวังเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นบนพื้นทะเล
ตัวอย่างเช่นหากคุณอยู่บนเรือประมง (Kesennuma) คุณจะต้องไม่เพียงรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงในทะเลเท่านั้น แต่ยังต้องปรับตัวและตอบสนองต่อสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดแบบเฉพาะกิจด้วย มันเป็นอันตรายอย่างแน่นอนและไม่สะดวกสบายเสมอไป แต่เพื่อความอยู่รอดและปลอดภัย พวกเขาเสริมสร้างวิธีการสื่อสารกับลูกเรือให้มีประสิทธิภาพ ปลอดภัยและใกล้ชิดกันมากขึ้น
ฉันถามคุณ Onodera ว่ามันจะอธิบายกรณีของเขาในการเป็นตัวแทนของการเปรียบเทียบทะเลได้อย่างไรและนั่นกลายเป็นหัวข้อของธุรกิจร้านกาแฟในปัจจุบันของเขาที่มีชื่อว่า “Anchor Coffee” ซึ่งนี่เป็นเพียงสิ่งเดียวที่เตือนให้คุณนึกถึงการผจญภัยไปยังทะเลเปิดอันแสนกว้างใหญ่ คาเฟ่อื่นๆ ของเขาบางแห่งมีชื่อว่า “Mother Port” ฉันคิดว่านี่เป็นคอนทราสต์ที่น่าสนใจและมีสไตล์มาก เขากำลังมองหาสถานที่ที่ผู้คนสามารถยึดเหนี่ยวเพื่อเริ่มบางสิ่งใหม่ ในขณะเดียวกันก็คอยหนุนผู้คนให้ล่องเรือเพื่อผจญภัยครั้งใหม่พร้อมการไตร่ตรองและสำรวจทะเลที่ห่างไกล Kesennuma อาจเป็นท่าเรือหลักสำหรับทุกคน แต่อย่างไรก็ตามบุคคลที่เพิ่งมาถึงท่าเรือบ้านเกิดของเขาก็จะมุ่งหน้าที่จะออกในไม่ช้า มันคือ “การเดินทางกลับไปกลับมา” คุณ Onodera แสดงให้ฉันเห็นถึงความคิดในวิธีที่ยอดเยี่ยมกับการแสวงหาการผจญภัยครั้งใหม่ที่ทำให้ชีวิตน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
การท่องเที่ยวพักผ่อนอยู่ใน “”เรือสำราญ”” หรือที่โตเกียวจะรับรองได้ถึงชีวิตที่สะดวกสบายทั้งในการทำงานที่แสนสะดวกและความปลอดภัยบนเรือ แต่จากประสบการณ์ของฉันที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นเป็นเวลานาน การใช้ชีวิตแบบนั้นอาจขาดแรงกระตุ้นและไม่มีประสบการณ์การสัมผัสทะเลที่น่ากลัวแบบเรือประมง Kesennnuma
ชาวโตเกียวมักจะเลือกเส้นทางที่ปลอดภัยและเลี่ยงความกลัวหรือเลือกที่จะไม่เกี่ยวข้องกับคนแปลกหน้า แม้ว่าโตเกียวจะเป็นเมืองระดับโลก แต่คนญี่ปุ่นอาจโดดเดี่ยว ว่างเปล่าเช่นเดียวกับชาวต่างชาติที่ไม่ได้รับการต้อนรับจากคุณญี่ปุ่นบางกลุ่มในอนาคตก็ได้
Kesennuma ได้ฟื้นสภาพกลับสู่ท่าเรือท้องถิ่นอันมีคุณค่ากับการต่อสู้แม้จะมีประวัติศาสตร์อันน่าเศร้าของสึนามิก็ตาม ผู้คนที่เกิดที่นี่และผู้คนที่อพยพมาจากทั้งในและต่างประเทศเชื่อว่า ความตื่นเต้นของชุมชนที่แสนความอบอุ่นและท่าเรือบ้านเกิดท้องถิ่นนั้นคุ้มค่าเกินที่จะปกป้องแม้ในยามที่เผชิญกับภัยธรรมชาติหรือเผชิญหน้ากับความยากลำบาก ช่างเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมจริงๆ!